สินค้าที่ขายผ่าน e-Commerce ได้นั้นมีทุกอย่าง ไม่ได้มีข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับ ความพอใจและเชื่อใจกันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
แต่อาจแบ่งให้เห็นภาพชัดขึ้นได้ เช่น บริการ เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก บริการสปา เสริมสวย ฯลฯ สินค้า ซึ่งอาจแบ่งเป็น สินค้าที่จับต้องได้ เช่น เสื้อผ้า ของใช้ อุปโภค บริโภค หรือสินค้าที่จับต้องไม่ได้ อย่างสินค้าดิจิตอล เช่น แอพ ซอฟต์แวร์ เพลง หนัง รูปภาพ รหัสหรือไอเท็มในเกม ฯลฯ ส่วนสินค้าที่อาจไม่เหมาะสำหรับ การขายผ่าน e-Commerce เช่น สินค้าที่มีน้ำหนักมากไม่สะดวกในการส่ง ไปรษณีย์ หรืออายุสั้น เน่าเสียได้ง่าย เช่น ผักผลไม้บางประเภท (ซึ่งหาก มีระบบการจัดส่งเอง ก็อาจรับออเดอร์ผ่านระบบ e-Commerce ได้)
เริ่มต้นขายอะไรดี
เราจะขายอะไรดี มักจะเป็นคำถามแรกๆ สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจะ หาสินค้ามาขาย แต่ยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะต้องวางแผน ให้พร้อมก่อนทำการขาย เริ่มต้นอาจจะลองขายสินค้าที่ เราชอบ มีความถนัด หรือมีความ รู้เกี่ยวกับตัวสินค้าเป็นอย่างดีเมื่อบริษัทรับทำเว็บไซต์แล้วเขาจะแนะนำสิ่งดีๆให้กัยเราก่อน เพื่อจะได้แนะนำลูกค้าได้ อย่างถูกต้อง และง่ายต่อการขาย ก็ได้ หรืออาจจะขายของที่จำเป็น ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ยิ่งถ้าเป็น สินค้าที่ใช้แล้วหมดไปก็ดี เพราะ ลูกค้าจะได้กลับมาซื้อใหม่ เช่น สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง หรือสินค้าไอที เป็นต้น สำหรับสินค้าที่นำมาขายนั้น หากเป็นสินค้าที่เหมือนๆ กัน ก็อาจจะทำให้ มีคู่แข่งเยอะ สินค้าอาจจะขายได้ยาก ซึ่งจะต้องอาศัยการทำการตลาดอย่างหนักต้องหาบริษัทรับทำเว็บไซต์มาช่วยด้านการตลาด แต่ถ้าสินค้าที่ขายมีความแตกต่าง หาได้ยาก โดดเด่นไม่เหมือนใคร ก็จะช่วยให้ ขายได้ง่ายขึ้น เพราะมีคู่แข่งน้อย โดยอาจจะสร้างเป็นแบรนด์ของตัวเอง เพื่อให้ ลูกค้าจดจำตัวสินค้าของเราได้ หรืออาจจะทำแพ็คเกจที่สวยงามเพื่อเพิ่มมูลค่า ให้สินค้าก็ได้